โรงงานผลิตเจลแอลกอฮอล์

โรงงานผลิตเจลแอลกอฮอล์

โรงงานผลิตเจลแอลกอฮอล์

โรงงานผลิตเจลแอลกอฮอล์ บริษัทพวกเราเป็นผู้ดำเนินการผลิตเครื่องสำอาง สามารถควบคุมคุณภาพสินค้า ภายใต้นักวิจัยด้านเครื่องสำอางเภสัชกรและกลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เฉพาะทางด้านผิวหนัง ที่มีช่วงเวลาในการเรียนรู้สูง ทั้งนี้ยังมีการผลิตสินค้าภายใต้กรรมวิธีการผลิตที่มีเกณฑ์สากลที่ได้รับการยืนยันเกณฑ์ GMP และหลักเกณฑ์ ISO 9001 : 2015 พวกเรายังมีการบริการการสร้างเครื่องสำอางอย่างครบวัฏจักร ด้วยมืออาชีพพร้อมทั้งบริการขึ้นทะเบียนจดแจ้งสินค้าเครื่องสำอางจาก อย. บริษัทจึงได้รับการยอมรับจากคนซื้อทั้งในประเทศและเมืองนอก

ในสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด เจลแอลกอฮอล์ คือ ไอเทม หรือ สิ่งที่ขาดไม่ได้ เนื่องจากว่า ‘เจลแอลกอฮอล์’ เป็นของสำคัญที่หลายท่านพกติดตัวในระยะเวลานี้ โดยแพทย์เฉพาะเจาะจงว่า โรงงานผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ สำคัญไม่บางส่วนไปกว่าหน้ากากอนามัยเลยทีเดียว ด้วยเหตุว่าวิธีการใช้ชีวิตรายวันส่วนมาก เลี่ยงไม่ได้ที่จึงควรหยิบหยิบและสัมผัสสิ่งของอยู่เสมอ ซึ่งบางโอกาสไม่อาจจะหาสบู่หรือน้ำสำหรับล้างมือได้ทันที เจลแอลกอฮอล์ก็เลยแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ใช้ตอบแทนได้ดีเยี่ยมที่สุด

5 เคล็ดวิธี ใช้เจลแอลกอฮอล์อย่างไร ? ให้ช่วยป้องกันโควิด-19 7 OEM รับสร้างแบรนด์ – SME สร้างอาชีพ ผลิตสินค้า คุณภาพเยี่ยม เพื่อให้คุณไปสู้ในตลาดได้อย่างมีชั้นเชิง – sangarcheep.com

1.เจลแอลกอฮอล์ที่ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ควรจะมีความเข้มข้น 70% ขึ้นไป ให้พิจารณาที่ข้างจำนวนภัณฑ์

2.เมื่อเปิดใช้แล้ว จะมีอายุการใช้งานราวๆ 28 วัน เนื่องด้วยความเข้มข้นจะลดลงจนไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้

3.เมื่อทาเสร็จแล้ว ควรจะรอให้เจลแห้งก่อน เชื้อไวรัสก็เลยจะตายสนิท

4.ส่วนที่นำมารวมกันจะต้องเป็น ‘เอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl alcohol)’ แค่นั้น ให้ระวังเจลปลอมที่นำ ‘เมทิลแอลกอฮอล์ (Methyl alcohol)’ มาใช้เป็นส่วนที่นำมารวมกัน เพราะเป็นสารที่มีพิษต่อร่างกายอย่างเร่าร้อน ห้ามเอามาใช้โดยเด็ดเดี่ยว

5.เสนอแนะให้ซื้อขวดใหญ่ แล้วเอามาถ่ายใส่ขวดเล็กสำหรับพกพา จะช่วยประหยัดมากยิ่งกว่า

เพราะเหตุใดต้องใช้สเปรย์น้ำแร่ ?

สเปรย์น้ำแร่ เป็นอีกหนึ่ง product ที่ผู้หญิงคนไม่ใช่น้อยจำเป็นอย่างยิ่ง ก็ด้วยเหตุว่าด้วยสิ่งที่ผิวได้รับจากสเปรย์น้ำแร่ นำมาซึ่งการทำให้หลายๆคนติดใจกันมาแล้ว น้ำแร่ที่ดื่มกับที่เป็นสเปรย์น้ำแร่ ความเข้มข้นของแร่ธาตุจะไม่เหมือนกัน หากเอาน้ำแร่ที่ดื่มมาใช้กับผิว ผลสรุปอาจไม่ดีเท่าวิธีใช้สเปรย์น้ำแร่โดยตรง ด้วยเหตุว่าสเปรย์น้ำแร่ จะมีแร่ธาตุ และส่วนที่นำมาผสมกันที่พิเศษ ที่ดีสำหรับผิวโดยเฉพาะ

-เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้า ชะลอการเกิดริ้วรอย

-ช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทน เพียงฉีดสเปรย์น้ำแร่ก่อนหรือหลังแต่งหน้า ก็จะทำให้ผิวชุ่มชื่น แต่งหน้าไม่ยากและติดทนขึ้น

-ผิวได้บรรเทา เพิ่มอีกความสดชื่นให้ผิวระหว่างวัน ลดการแห้งตึงหลังล้างหน้า

-ปลอบประโลมผิว ด้วยแร่ธาตุธรรมชาติ ช่วยลดการอักเสบ และการระคายเคืองผิว

-ผ่อนคลายอาการแสบ ร้อน ข้างหลังออกแดด เพียงใช้สเปรย์น้ำแร่ บนผิวหน้าหรือผิวกาย ก็จะช่วยผิวเย็น สดชื่นลดอุณภูมิให้ผิว ผ่อนคลายรอยแดง รอยบ้างมั๊ย้จากแสงแดด

ใช้สเปรย์น้ำแร่ได้หลายครั้ง โดยไม่นำไปสู่การอุดตัน เหมาะกับทุกสภาพผิว

เคล็ดลับฉีดสเปรย์น้ำแร่ให้ถูกต้อง

การฉีดสเปรย์น้ำแร่ที่ถูกต้อง ควรฉีดสเปรย์น้ำแร่ให้ห่างจากหน้าตาประมาณ 1 ฟุต(30ซม.) จะได้ละอองน้ำแร่ที่ละเอียดทั่วผิวหน้า ทิ้งไว้ 30 วินาที เพื่อให้แร่ธาตุและสารบำรุง ซึมลงสู่ผิว แล้วต่อจากนั้นใช้กระดาษซับหน้าเบาๆ เพื่อเอาน้ำส่วนเกินออกไปจากผิว

 

ทำความสะอาดอย่างไร ไม่เป็นอันตรายไกลโควิด-19

เพราะเหตุว่าไวรัสโคโรนา หรือเชื้อโควิด-19 สามารถอยู่ด้านในสิ่งแวดล้อมได้เป็นช่วงเวลาหลากหลายชั่วโมงถึงหลากหลายวัน สำหรับเพื่อการคุ้มครองปกป้องการแพร่ระบาดเชื้อโรคที่ปนเลอะอยู่ตามพื้นผิวต่างๆ โรงงานผลิตเจลแอลกอฮอล์  จึงควรจะใช้สารที่มีประสิทธิภาพสำหรับในการกำจัดเชื้อได้ในระยะเวลาสั้น องค์การอนามัยโลกแนะนำว่า กระบวนการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อในสภาพแวดล้อม แยกประเภทเป็น 2 กรรมวิธีสำคัญคือ วิธีการทำความสะอาด (Cleaning) และการฆ่าเชื้อโรค(Disinfection) และข้อเสนอแนะสาร 3 ชนิดที่ทำลายเชื้อไวรัสได้ภายในระยะเวลา 1 นาที ได้แก่ สารประกอบ

1.โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1% (ได้แก่ น้ำยาฟอกขาวความเข้มข้น 1,000 ppm)
2.แอลกอฮอล์ 62%-70%
3.ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5%

การเลือกสินค้าเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดส่วนมากจะและก็มีสบู่หรือสารลดแรงตึงผิวช่วยลดจำนวนเชื้อโรคบนพื้นผิว และยังช่วยลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการติดเชื้อบนพื้นผิว การทำความสะอาดเพียงอย่างเดียวก็สามารถช่วยขจัดไวรัสบนพื้นผิวได้ โดยไม่จำเป็นต้องเกิดการฆ่าเชื้อ เว้นแต่ในกรณีที่เผชิญว่ามีผู้ป่วยหรือผู้รู้สึกเสี่ยงสูงในอาคาร

ผลิตภัณฑ์เพื่อทำความสะอาด

ตัวอย่างเช่น น้ำสบู่ผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาด

ผลิตภัณฑ์สำหรับฆ่าเชื้อโรค
– กรณีเป็นสิ่งของ เครื่องมือ เครื่องใช้ชี้แนะให้ใช้แอลกอฮอล์ 70% หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5% สำหรับการเช็ดเพื่อจะฆ่าเชื้อโรค

– กรณีเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น พื้นห้อง ชี้แนะให้ใช้สินค้าที่มีส่วนที่นำมาคลุกเคล้าโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ำยาซักผ้าสว่าง) 0.1%

กรรมวิธีแนวทางการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบนพื้นผิว

ควรจะมีการตรวจตราพื้นผิวรอบๆที่จะทำความสะอาด ถ้าพื้นผิวมีความเปรอะเปื้อน ควรจะทำความสะอาดรากฐานก่อนที่จะกระทำการฆ่าเชื้อโรค โดยชี้แนะขั้นตอนแนวทางการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ดังนั้น

การเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ

1) อุปกรณ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ เป็นต้นว่า อุปกรณ์การตวง ถุงขยะ ถังน้ำ ไม้ถูพื้น ผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาด

2) อุปกรณ์คุ้มครองร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น ถุงมือ หน้ากากผ้า เสื้อผ้าที่จะนำมาเปลี่ยนหลังทำความสะอาด

3) สินค้าทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคพื้นผิว ดังเช่น ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้าขาวแอลกอฮอล์ โดยตรวจตราองค์ประกอบของน้ำยาทำความสะอาดบนฉลากข้างขวดผลิตภัณฑ์ ควรตรวจสอบวันหมดอายุ ทั้งนี้การเฟ้นใช้สังกัดประเภทพื้นผิวอุปกรณ์ ดังเช่นว่า โลหะ หนัง พลาสติก

การเตรียมสารทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ

1) การเตรียมการสารทำความสะอาด ใช้น้ำผสมน้ำสบู่ หรือผงซักฟอก

2) การเตรียมน้ำยาสำหรับฆ่าเชื้อ ขึ้นกับประเภทและความเข้มข้นของสารที่เลือกใช้ โดยบอกต่อให้คัดสรรค์ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่มีส่วนที่นำมารวมกันของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ ซึ่งคุ้นเคยกันในชื่อเรื่อง “น้ำยาฟอกขาว” เนื่องด้วยหาได้ง่าย โดยนำมาผสมกับน้ำเพื่อให้ได้ความเข้มข้น 0.1% หรือ 1000 ส่วนในล้านส่วน โดยใช้น้ำยา 1 ส่วน ผสมในน้ำ 49 ส่วน

การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณพื้นผิว

1) สวมวัสดุป้องกันตัวเราเองทุกครั้งเมื่อต้องทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ

2) เปิดประตู / หน้าต่างช่วงทำความสะอาดเพื่อที่จะให้มีการระบายอากาศ

3) ควรจะทำความสะอาดและฆ่าเชื้อทั่วทั้งรอบๆ และมุ่งเน้นบริเวณที่มักเกิดการรู้สึกหรือใช้งานด้วยกันหลายครั้ง ๆ ดังเช่นว่า ลูกบิดประตู รีโมทคอนโทรล ปุ่มกดลิฟท์ ซึ่งเป็นหลักผิวขนาดเล็ก โดยนำผ้าเพื่อเช็ดทำความสะอาดชุบน้ำยาฟอกขาวที่เตรียมพร้อมไว้ หรือแอลกอฮอล์ 70% หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5% เช็ดทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ

4) สำหรับพื้นให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาด หรือใช้น้ำผสมสบู่หรือผงซักฟอก ทำความสะอาด โดยเริ่มต้นจากรอบๆเลอะเทอะน้อยไปมาก เริ่มต้นถูพื้นจากมุมหนึ่งไปยังอีกมุมหนึ่ง ไม่ซ้ำรอยเดิม แล้วจึงค่อยฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาเพื่อฆ่าเชื้อที่เตรียมพร้อมไว้

5) ทำความสะอาดห้องน้ำ ห้องส้วม ด้วยน้ำยาทำความสะอาดทั่วๆไปก่อน สำหรับพื้นห้องส้วม ให้ฆ่าเชื้อโดยราดน้ำยาฟอกสว่างที่เตรียมไว้ทิ้งไว้อย่างต่ำ 10 นาที เช็ดมุ่งเน้นบริเวณที่รองนั่งโถส้วม ฝาปิดโถส้วม ที่กดชักโครก เหมือนกับจับ ลูกบิดหรือกลอนประตู ที่ห้อยกระดาษชำระ อ่างล้างมือ ก๊อกน้ำ ที่วางสบู่ ผนัง ซอกประตู ด้วยผ้าชุบน้ำยาฟอกสว่างที่จัดเตรียมไว้ หรือแอลกอฮอล์ 70% หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5%

การจัดการข้างหลังทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค

1) ควรซักผ้าที่ใช้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อและไม้ถูพื้น ด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ แล้วซักด้วยน้ำสะอาดอีกสักที และนำไปผึ่งตากแดดให้แห้ง

2) บรรจุภัณฑ์ใส่น้ำยาทำความสะอาด ควรคัดแยกออกไปจากขยะทั่วไปในครัวเรือนและทิ้งในถังขยะอันตราย เศษขยะที่เหลือรวบรวมแทอดทิ้งขยะลงในถุงพลาสติกซ้อนสองชั้นหรือถุงขยะ มัดปากถุงให้แน่นและนำไปทิ้งโดยทันทีโดยทิ้งเข้าร่วมกับขยะทั่วไป

3) ถอดถุงมือแล้วล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หากเป็นได้ให้ชำระล้างร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยเร็วทันใจ

ข้อควรระวัง

1) สารที่ใช้ฆ่าเชื้อจำนวนมากเป็นสารฟอกขาว ซึ่งอาจกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการระคายเคืองผิวหนัง เนื้อเยื่ออ่อน ควรระวังไม่ให้เข้าตาหรือสัมผัสโดยตรง

2) ไม่แนะนำให้ผสมน้ำยาฟอกขาวกับสารทำความสะอาด หรือสารฆ่าเชื้ออื่น ๆ ที่มีส่วนที่นำมารวมกันของแอมโมเนีย

3) หลีกเลี่ยงวิธีใช้สเปรย์ฉีดพ่นเพื่อที่จะฆ่าเชื้อ เหตุเพราะอาจจะเป็นผลให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

4) เพื่อจะให้น้ำยาเพื่อฆ่าเชื้อมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรจัดเตรียมก่อนวิธีการใช้งาน และใช้งานในทันที

5) ไม่ควรที่จะนำถุงมือไปใช้สำหรับเพื่อการทำกิจกรรมชนิดอื่น ๆ นอกเหนือจากการทำความสะอาดเท่านั้น เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อโรค

6) หลีกเลี่ยงการใช้มือรับรู้บริเวณเค้าหน้า ตา จมูก และปาก ช่วงสวมถุงมือและตอนกระบวนการทำความสะอาด

HOME