กรีฑา มีกี่ประเภท

กรีฑา มีกี่ประเภท

กรีฑา มีกี่ประเภท กรีฑาประเภทเดินเป็นการแข่งขันที่จำเป็นจะต้องใช้ทักษะการเดิน ที่สามารถจัดการแข่งขันชิงชัยได้ทั้งด้านในสนามและบนถนน แถมยังมีการแข่งขันเดินข้างในสนาม ระยะทาง 10,000 เมตร และ 20,000 เมตร ส่วนการแข่งขันเดินบนถนน ระยะทาง 20 กิโลเมตร และ 50 กิโลเมตร กรีฑา มีกี่ประเภท

กรีฑาจำพวกถนน (Road Races)

เป็นการแข่งขันวิ่งบนถนน เส้นเริ่มต้นและเส้นชัยอาจอยู่ด้านในสนามกรีฑาก็ได้เหมือนกัน มีระยะทาง เกณฑ์ในการจัดการแข่งขันเพื่อชายและผู้หญิง ดังนั้น

วิ่ง 15 กิโลเมตร

วิ่ง 20 กิโลเมตร

วิ่งครึ่งมาราธอน (Half Marathon) 25 กิโลเมตรและ 30 กิโลเมตร

วิ่งมาราธอน (Marathon) 42.195 กิโลเมตรและ 100 กิโลเมตร

กรีฑาชนิดวิ่งข้ามทุ่ง (Cross Country Races)

กรีฑาชนิดวิ่งข้ามทุ่ง เป็นการวิ่งที่มักจัดขึ้นในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ หรือ นอกเมือง เส้นทางวิ่งจะเป็นสนามหญ้า เนินเขา ทางเดิน หรือทุ่งนาที่ไถแล้ว นักวิ่งคงจะจะพบสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ในธรรมชาติ ซึ่งในเกรดนานาชาติมีการจัดการแข่งขันชิงชัย ด้วยเหตุผลดังกล่าว

จำพวกทีม แยกแยะรายการแข่งขันชิงชัยเป็น ชาย ระยะทาง 12 กิโลเมตร เยาวชนชาย ระยะทาง 8 กิโลเมตร เพศหญิง ระยะทาง 6 กิโลเมตร เยาวชนหญิง ระยะทาง 4 กิโลเมตร

การวิ่งขึ้นเขาเป็นส่วนใหญ่ ทั่วไปชาย ระยะทาง 12 กิโลเมตร ระดับความสูง 1,200 เมตร ทั่วๆไปสตรี ระยะทาง 7 กิโลเมตร ดีกรีความสูง 550 เมตร เยาวชนชาย ระยะทาง 7 กิโลเมตร เกรดความสูง 550 เมตร

ประโยชน์ของกรีฑา กรีฑา มีกี่ประเภท

  • ช่วยทำให้กล้ามเนื้อสมบูรณ์แข็งแรง
  • ช่วยทำให้ร่างกายมีภาพร่างได้สัดส่วน มีบุคลิกภาพดี
  • ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมีความต้านทานโรคได้
  • ช่วยทำให้ร่างกายมีความแกร่งต่อการดำเนินงาน เหนื่อยช้าและขาดหายใจเร็วขึ้น
  • ช่วยให้ระบบประสาทดียิ่งขึ้น ส่งผลให้นอนหลับสะดวก
  • ช่วยทำให้ระบบการขาดหายใจดีขึ้น ทรวงอกมีขนาดใหญ่ขึ้น
  • ช่วยให้ระบบการย่อยและระบบเคลื่อนถ่ายจัดการงานได้ดิบได้ดีขึ้น
  • ช่วยทำให้เส้นโลหิตขยายโตขึ้น มีผลให้การไหลเวียนของโลหิตดี ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้นด้วย
  • ช่วยทำให้มีอารมณ์ร่าเริง แจ่มใส รื้นเริงเพลิกเพลิดเพลินเจริญใจ

ขว้างจักร (Throwing a Discus )

การขว้างจักรเป็นกรีฑาประเภทลานอีกประเภทหนึ่ง ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจึงควรขว้างจักรไปจากพื้นที่ข้างในวงกลมให้จักรไปตามแนวทางตามข้อตกลงเฉพาะเจาะจงไว้ ผู้ที่ขว้างจักรได้ไกลที่สุดเป็นผู้ชนะ การวิ่งกระโดดไกลมีหลายแบบ เช่น การวิ่งกระโดดไกลแบบงอตัว แบบก้าวขาในอากาศแบบแอ่นตัว ในที่นี้

ผู้เข้าชิงชัยจะใช้ท่าใดขว้างจักรก็ได้เช่นกัน หรือจะหมุนตัวกี่รอบก็ได้ หากพฤติกรรมนั้นไม่ไม่ถูกกติกา แต่จักรจำเป็นจะต้องขว้างออกมาจากวงกลมและเริ่มตอนนี้ตั้งแต่ต้นขว้างจากท่านิ่ง อนุญาตให้ผู้เข้าชิงชัยรับรู้ขอบภายในของวงกลมได้ ห้ามใช้เครื่องเกื้อหนุนใด ๆ ยกตัวอย่างเช่น ใช้เทปพันนิ้วมือ 2 นิ้ว หรือมากยิ่งกว่าเข้าร่วมกัน ไม่อนุญาตให้ใช้เทปพันมือนอกจากนั้นในเรื่องที่ใช้ปิดบาดแผลเท่านั้น ห้ามสวมถุงมือทำการประลอง เพื่อจะช่วยให้การจักจักรได้ดิบได้ดีขึ้นผู้เข้าแข่งขันสามารถใช้สารที่ไม่ผิดกติกาทาบนมือได้ เพื่อที่จะป้องกันกระชมกสันข้างหลังบาดเจ็บผู้เข้าแข่งคงจะคาดเข็มขัดหนังหรือเครื่องไม้เครื่องมืออื่นที่สมควรได้ ห้ามผู้เข้าชิงชัยโรยสารใด ๆ ลงบนวงกลมหรือบนพื้นรองเท้าทาย

การขว้างจักรที่ผิดข้อตกลง คือ หลังจากที่ผู้เข้าแข่งขันได้ก้าวเข้าไปในวงกลม และกระทำขว้างจักรออกไปแล้ว ส่วนใดส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายรู้สึกขอบวงกลม ในการแข่งขันนั้นผู้เข้าแข่งขันจะยุติการแข่งขัน หรือออกไปจากวงกลมก็ได้ เมื่อออกมาจากวงกลมจำเป็นที่จะต้องก้าวออกข้างข้างหลัง แล้วต่อจากนั้นจะกลับเข้ามาอยู่ในด้านนิ่ง และเริ่มต้นการแข่งขันชิงชัยใหม่อีกครั้ง การประลองที่สำเร็จนั้นจักรจำเป็นจะต้องตกอย่างบริบูรณ์ในขอบในของรัศมีการขว้างเท่านั้น การแข่งขันจะออกมาจากวงกลมไม่ได้จนกระทั่งจักรจะตกพื้นดินเรียบร้อยแล้ว เมื่อไปจากวงกลมจึงควรออกทางครึ่งข้างหลัง ซึ่งมีเส้นสีสว่างเป็นเส้นกำหนดเขต เส้นนี้ต่อออกจากด้านนอกของวงกลมโดยต่อจากเส้นผ่านใจกลาง จักรที่ขว้างไปแล้วจำเป็นจะต้องหยิบกลับมาที่วงกลม ห้ามขว้างกลับมา

พุ่งแหลน (Throwing the Javelin)

พุ่งแหลนเป็นกรีฑาชนิดลาน ผู้เข้าชิงชัยแต่ละคนจะต้องพุ่งแหลนที่มีน้ำหนักเท่า ๆ กันโดยพุ่งแหลนออกไปด้านหน้า ผู้ที่พุ่งได้ไกลที่สุดเป็นผู้ชนะ การพุ่งแหลนเป็นกรีฑาที่จะต้องใช้อุปกรณ์ที่มีน้ำหนัก นักกรีฑาก็เลยจำเป็นจะต้องอาศัยกำลังและความเร็วเพื่อที่จะพุ่งแหลนออกไปให้ได้ระยะทางไกลที่สุด การพุ่งแหลนมีทั้งยืนอยู่กับที่และวิ่งพุ่งแหลน
กติกาการแข่งขันชิงชัยพื้นฐาน

จำเป็นจะต้องหยิบแหลนดิ่งที่จับ การพุ่งแหลนจะต้องพุ่งออกไปเหนือไหล่ หรือเหนือท่อนบนของแขนที่ใช้พุ่ง และจำเป็นต้องไม่เหวี่ยงหรือขว้างหรือต้นแบบการพุ่งซึ่งไม่เป็นไปตามแบบแผน การพุ่งแหลนจะได้ผลสำเร็จเมื่อหัวแหลน ซึ่งเป็นโลหะถูกพื้นก่อนส่วนอื่น ๆ ของแหลน ในเวลาที่แหลนพุ่งไปในอากาศแล้ว ผู้เข้าแข่งขันจะหมุนตัวหรือหันข้างหลังให้กับส่วนโค้งก็ได้เช่นกัน ห้ามใช้เครื่องผลักดันใด ๆ ในการแข่งขัน ยกตัวอย่างเช่น ใช้ผ้าเทปพันนิ้วมือ 2 นิ้ว หรือมากมายยิ่งกว่าเข้าร่วมกัน การใช้ผ้าเทปพันมือไม่อาจทำแล้วได้ นอกจากในกรณีที่ใช้ปิดบาดแผลแค่นั้น ห้ามสวมถุงมือ เพื่อจะช่วยให้จับแหลนได้กระชับกว่าที่เคยเป็น ผู้เข้าแข่งขันสามารถคาดเข็มขัดหนังหรืออุปกรณ์ที่เหมาะสม เมื่อเริ่มต้นการพุ่งแล้ว ถ้าส่วนหนึ่งส่วนใดส่วนใดของร่างกายผู้แข่งสัมผัสที่ลากต่อออก

ไปจากปลายของส่วนโค้งหรือพื้นข้างนอก หรือปล่อยแหลนออกไปด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม ให้ถือได้ว่าการแข่งขันชิงชัยนั้นไม่มีผล ผู้เข้าแข่งคงจบสิ้นการแข่งขันชิงชัยได้ แม้ว่าจะเริ่มการแข่งขันแล้ว โดยวางแหลนลงด้านในหรือด้านนอกทางวิ่ง รวมถึงคงจะจะออกจากทางวิ่งก็ได้ แล้วต่อจากนั้นจะกลับเข้ามาที่ทางวิ่งและเริ่มตอนนี้ตั้งแต่ต้นการแข่งขันชิงชัยใหม่ก็ได้เหมือนกันด้วยเช่นกัน หากแหลนหักในระหว่างที่พุ่งออกไปหรือขณะที่ลอยอยู่ในอากาศ ถือว่าไม่ทำให้เกิดผลเสียการแข่งขัน ทำการแข่งขันใหม่ได้โดยมีเงื่อนไขว่าการพุ่งแหลนนั้นปฏิบัติถูกต้องแม่นยำตามกติกา

แต่หากผู้แข่งเสียการทรงตัวและทำการไม่ถูกข้อตกลงการแข่งขันชิงชัยนั้นถือว่าไม่เป็นผล สำหรับการแข่งขันที่ทรงอิทธิพลนั้น ท่อนหัวของแหลนควรต้องตกลงภายในขอบของรัศมีการพุ่งอย่างบริบูรณ์ ผู้เข้าชิงชัยจะต้องไม่ออกจากทางวิ่ง จนกว่าแหลนจะตกลงพื้น ให้ผู้เข้าแข่งขันเดินออกทางด้านหลังของส่วนโค้งและด้านหลังเส้นที่ต่อไปจากปลายของส่วนโค้ง ควรต้องจับแหลนกลับมาที่เส้นเริ่มต้น ห้ามพุ่งกลับมา

ประวัติกรีฑา

การแข่งขัน กรีฑา เริ่มต้น ความเป็นมากรีฑา ครั้งแรกเมื่อราวๆ 776 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในประเทศกรีซ โดยทำการประลอง ณ ลาน เชิงเขาโอลิมปัส ในเขตแดนอีลิส แต่มาเริ่มต้นเป็นที่ชื่นชอบหลังจากนั้น เมื่อใน พุทธศักราช 2439 ซึ่งมีนักกีฬาชาวชาวต่างชาติเศส ชื่อเรื่อง ปีแยร์ เดอ กูแบร์แต็ง ได้ริเริ่มการแข่งขันชิงชัยกีฬาโอลิมปิก ก็เลยได้เกิดการถ่ายทอดกันต่อจากนั้น

การเล่น กรีฑา ในประเทศไทย ริเริ่มต้นตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยครูชาวอังกฤษ เอามาสอนให้นักเรียนไทย ได้ฝึกหัดเล่นในโรงศึกษาพระตำหนักวังสวนกุหลาบ ปีพ.ศ. 2476 รัฐบาลได้ตั้งกรมพลทำความเข้าใจขึ้น มีนโยบายผลักดันการกีฬาและการกรีฑาของชาติให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นและนับสนุนให้มีการแข่งขันชิงชัยหลายหมวด

ต่อจากนั้นพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลหน้าจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นผู้บริหารเปิดการแข่งขันชิงชัย และทอดพระเนตรการแข่งขัน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กระทรวงธรรมการได้จัดให้มีการแข่งขันชิงชัยกรีฑาเด็กนักเรียนประจำทุกปีตลอดมา

เพื่อจะระบายอารมณ์แค้นที่เก็บไว้อย่างเบิกบาน ผลที่สุดเมื่อเหล่านี้ถ้าะโหลกศีรษะเตะกันมิได้ก็เอาถุงลมของวัวมาทำเป็นลูกกลมขึ้นเตะแทนกะโหลกศีรษะ เห็นได้ชัดว่าเป็นที่รื่นเริงรื้นเริงสนามกันมาก ต่อมาชาวโรมันได้นำเกมนี้ไปเล่นในอังกฤษ หลังจากนั้นชาวอังกฤษก็ได้ปรับแต่งวิธีการเล่น วิธีการจัดการเล่น ตลอดจนข้อตกลงให้เหมือนในสมัยเดี๋ยวนี้ คือเกมฟุตบอลที่ใช้เท้าทายเล่น

แต่ในตอนแรกของการเล่นฟุตบอลจะเล่นกันเป็นกลุ่ม ๆ เฉพาะเจาะจงหมู่คนธรรมดาเพียงแค่นั้น ไม่มีการสร้างขอบเขตปริมาณผู้เล่น ประตูจะห่างกันเป็นไมล์และใช้เวลาสำหรับเพื่อการเล่นหลายๆชั่วโมง จะเป็นการเล่นระหว่างทหารใหม่ที่ถูกเกณฑ์ นักบวช คนที่แต่งงานแล้ว คนโสด และหมวดพ่อค้า เกมประเภทได้เปลี่ยนเป็นสิ่งฉลองในงานพิธีต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ในวันโชรพ ทิวส์เดย์ (Shrove Tuesday) จะมีฟุตบอลนัดสำคัญให้คนได้ดู เกมในยุคนั้นจะเล่นกันอย่างเร่าร้อนและเกิดการบาดเจ็บปวดกันมาก

 

 

julianmarment