จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า

จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย

จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ชวนวิเคราะห์เหตุการณ์มาตรการทางกฎเกณฑ์หมายบุหรี่ไฟฟ้าทั่วทั้งโลกว่าจัดแจงกันเช่นไร ท่ามกลางการเติบโตว่าบุหรี่ไฟฟ้ากลับมาเป็นแง่มุมที่พูดถึงอีกรอบเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2564 จากการชี้ให้เห็นความคิดเห็นของนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อที่จะเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่ให้สัมภาษณ์ส่งเสริมบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎข้อปฏิบัติหมายเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ว่า ตัว

ของเราเองกำลังศึกษาข้อกฎข้อบังคับหมายที่เกี่ยวเนื่องกับบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องด้วยมองว่ากระบวนการทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎเกณฑ์หมายจะสามารถลดอันตรายแก่ผู้สูบได้ พร้อมเจาะจงว่าเครื่องยาสูบที่เป็นไฟฟ้าจับเป็นเทคโนโลยีใหม่ 67 ประเทศทั้งโลกเกิดการยอมรับบุหรี่

ไฟฟ้าแล้ว นอกจากนี้นี้ยังหยิบยกต้นเหตุผลว่า เพราะเหตุว่าโรงงานยาสูบและผู้ปลูกยาสูบเองก็มีค่าแรงลดลง เนื่องจากคนนิยมไปสูบบุหรี่นำเข้า หรือบุหรี่ที่ลักลอบนำเข้ามา แต่ต่อจากนั้นนายสาธิต วงศ์หนองเตย รมช.กระทรวงสาธารณสุขออกมาปฏิเสธว่า รัฐบาลไร้แนวทางให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ถูกกฎข้อบังคับหมาย

ล่าสุด บุหรี่ไฟฟ้าเป็นของต้องห้ามในประเทศไทย โดยถูกจัดว่าผิดกฎข้อบังคับหมายและห้ามนำเข้าโดยเด็ดขาดตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2557 ภายใต้พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอก จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งผลิตภัณฑ์ พ.ศ. 2522 ผู้ละเมิดมีโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของสินค้าที่นำเข้า หรือทั้งจำทั้งปรับพร้อมถูกริบสินค้า

และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 244 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดกันแน่นำเข้าของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการทางศุลกากรเข้าในราชอาณาจักร หรือส่งของดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักร หรือนำของเข้าเพื่อที่จะการผ่านแดน หรือการถ่ายลำเลียงโดยหลบหลีกข้อแม้ หรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น ซึ่งความไม่ถูกที่ผู้มีเอาไว้ในครอบงำซึ่งของที่มิได้ผ่านพิธีการศุลกากรจะได้รับคือ ความไม่ถูกฐานส่งเสริมพฤติกรรมความไม่ถูก

ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ปริมาณผู้สูบยังเป็นที่ปะทะคารมกันอยู่ ไม่สามารถที่จะเจาะจงตัวเลขได้กระจ่างแจ้ง ขณะที่เครือข่ายผู้บริโภคบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเรียกร้องให้เกิดการบังคับการการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎข้อบังคับหมายเจาะจงว่า มี

ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยราวกับ 2 ล้านคน แต่หลังจากนั้นมีการแถลงข่าวเผยผลของการวิเคราะห์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติซึ่งเข้าร่วมมือกับสำนักงานกองทุนผลักดันการสร้างและจัดทำขึ้นเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า แผนการสำรวจการกระทำด้านของสุขภาพพลเมือง ปี 2564 ประสบว่า ประชาชนไทยที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีปริมาณ 78,742 คน คิดเป็นอัตรา 0.14%

บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นประเด็นร้อนที่โต้เถียงในแวดวงสาธารณสุขและแผนการสาธารณสุขในเมืองนอก เนื่องมาจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่ชื่นชอบเพิ่มขึ้นเรื่อย ฟากผู้ช่วยเหลือบุหรี่ไฟฟ้าบอกเหตุผลว่า เป็นหนทางที่ไม่มีอันตรายกว่าเมื่อเปรียบกับบุหรี่ทั่วไป ซึ่งเป็นสาเหตุส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั่วทั้งโลกปีละหลายล้านคน แต่ตัวเลขจำนวนผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นเยาวชนเพิ่มอีกสูงขึ้นอย่าง

รวดเร็วทันใจสร้างความกลุ้มใจว่า คนรุ่นใหม่จะหันมาเสพติดนิโคตินผ่านเครื่องไม้เครื่องมือบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งปริมาณหนึ่งมีนิโคตินเข้มข้น ระหว่างเดียวกันหลักฐานที่รับรองได้ว่าเครื่องมือกลุ่มนี้ไม่มีอันตรายในระยะยาวก็ยังไม่มากพอ หลายๆประเทศมีรายงานผู้ป่วยและเสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เรื่องต่างๆ ที่กำเนิดขึ้นสะท้อนให้แสดงตัวถึงการโตขึ้นอย่างรวดเร็วทันใจของบุหรี่ไฟฟ้าที่คงไปไกลเกินกว่าการสั่งการชมแลและผลการศึกษาวิจัย

ประเทศที่ห้าม-อนุญาตซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้า

จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า

จากการรวบรวมข้อมูลของ Rocket Media Lab ทั้งจากข้อมูลที่เปิดเผยแพร่โดย ศูนย์ธรรมาภิบาลนานาชาติสำหรับการกำกับการยาสูบ ที่รวบรวมข้อมูลกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2021 และแหล่งรายละเอียดเพิ่มเติม จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า  เติมอีก เจอว่า มี 35 ประเทศห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า มี 3 ประเทศที่ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคติน เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ศรีลังกา ส่วนประเทศที่อนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าได้ภายใต้กฎข้อปฏิบัติหมายกำกับการมี 73 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มี 34 ประเทศที่กำกับการนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า

ช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นไร้มาตรการกำกับการบุหรี่ไฟฟ้าแบบไม่มีนิโคติน (Non-nicotine e-cigarettes) บุหรี่ไฟฟ้าแบบที่มีนิโคตินได้รับการบังคับการตามกฎเกณฑ์หมายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ อย่างไรก็ตามยังไร้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข ส่วน heat-not-burn tobacco product อยู่ภายใต้การกำกับการตามกฎหมายยาสูบ และเก็บภาษีตามกฎเกณฑ์หมายยาสูบด้วย

ข้อมูลในตารางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าแบบมีนิโคติน ส่วนในออสเตรเลีย บุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีสารนิโคตินเป็นผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค แต่ละรัฐมีหลักเกณฑ์หมายไม่เหมือนกัน มาตรการหลักเดียวกันคือ การกำหนดอายุอย่างน้อย ห้ามใช้ในที่สาธารณะ และข้อห้ามเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์และสนับสนุนวิธีขาย ส่วนบุหรี่ไฟฟ้าแบบที่มีสารนิโคติน ใช้และนำเข้าได้จำเพาะมีใบสั่งยาจากแพทย์ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 ด้านศรีลังกา ห้ามบุหรี่ไฟฟ้าที่มีองค์ประกอบของยาสูบ

แม้กระนั้น กฎระเบียบหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในแต่ละประเทศยังอาจจะมีการปรับแก้เป็นระยะตามการโต้แย้งในแต่ละช่วงเวลา ดังเช่นว่าที่ เม็กซิโก ที่เคยประกาศห้ามนำเข้าและค้าขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าหลักเกณฑ์หมายนี้ขัดรัฐธรรมนูญ แต่ก็ยังไม่มีความแน่ชัดว่ามีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายข้างหลังคำตัดสิน

มาตรการกำกับชมแลบุหรี่ไฟฟ้าทั่วทั้งโลก

ไม่น่าใช่แค่ประเทศไทยแค่นั้น ในช่วง 4-5 ปีมานี้ บุหรี่ไฟฟ้าสำเร็จิตภัณฑ์ที่รัฐบาลประเทศต่างๆ มีความสนใจ เนื่องจากมีผู้ซื้อเพิ่มอีกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถูกมองว่าสามารถใช้เพื่อที่จะเป็นหนทางสำหรับผู้สูบบุหรี่มีความต้องการปรับเปลี่ยนความประพฤติให้สูบลดลง จนนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเลิกบุหรี่ได้ท้ายที่สุด

รวมทั้งมีรายงานเกี่ยวกับอันตรายจากการใช้งาน อาทิเช่น มีรายงานจากศูนย์บังคับการและคุ้มครองป้องกันโรคสื่อสาร สหรัฐอเมริกาว่า ในปี 2563 คนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเสียชีวิตขั้นต่ำ 68 คน ระหว่างเดียวกันองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังเห็นว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นภัยต่อสุขภาพและไม่ไม่มีอันตราย จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า แม้จะยังไร้รายงานผลกระทบระยะยาวและการเปรียบเทียบช่วงบุหรี่ทั่วๆไปและบุหรี่ไฟฟ้า ด้วยเหตุที่ยังหาบทสรุปไม่ได้และแจ่มแจ้ง แต่ละประเทศก็เลยมีแนวทางจัดการกับบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่เหมือนกันออกไป และมีความเคลื่อนไหวอยู่เป็นประจำ

จากการสะสมข้อมูลมาตรการทางหลักเกณฑ์หมายใน 73 ประเทศที่อนุญาตให้ซื้อขายแลกเปลี่ยนบุหรี่ไฟฟ้าจาก Institute for Global Tobacco Control, Campaign for Tobacco-Free Kids และ Ajay Shah, John Britton & Ilze Bogdanovica (2021) ช่วงกุมภาพันธ์ 2563-กันยายน 2564 เผชิญว่า แต่ละประเทศมีวิธีในการจัดแจงกับบุหรี่ไฟฟ้าที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก มีทั้งประเทศที่ไร้มาตรการควบคุมใดๆก็ตาม เลยจนกระทั่งเฉพาะเจาะจงเนื้อหาว่า ห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถที่มีเด็กโดยสารอยู่ด้วย

ในภาพรวมจากทั้งหมด 76 ประเทศ (รวมออสเตรเลีย ญี่ปุ่นและศรีลังกาที่มีมาตรการสำหรับบุหรี่ไฟฟ้าที่ไร้สารนิโคติน) จำนวนมากมีข้อคิดเห็นดิ่งกันว่าจำเป็นที่จะต้องจำกัดอายุอย่างต่ำของผู้ซื้อ คิดเป็น 81.57% (62 ประเทศ) หรือมากมายยิ่งกว่า 3 ใน 4 ที่มีกฎเกณฑ์หมายเจาะจงให้คนซื้อบุหรี่ไฟฟ้าควรต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป เหมือนกันกับการกำหนดการโปรโมทโฆษณาและผลักดันวิธีขาย ซึ่งอย่างกับ 70% (50-56 ประเทศ) มีมาตรการสั่งการด้านนี้ รวมทั้งการห้ามสูบในพื้นที่สาธารณะ 73.61% (53 ประเทศ)

ประเทศต่างๆ มีกรอบคิดในการจัดการกับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไร

ถ้าไตร่ตรองภาพรวมเคล็ดลับที่ประเทศต่างๆ กำกับชมแลบุหรี่ไฟฟ้าทั้งอนุญาตให้จำหน่ายและไม่อนุญาตใน 97 ประเทศ นักวิจัยจาก Global Strategy Lab สถาบันระดับปริญญาโตรอนโต แคนาดาตรวจทานว่า อาจจะแบ่งตามฐานคิดได้ 7 แบบ เช่น

การห้าม ปิดกั้นกรรมวิธีการทางหลักเกณฑ์หมายทุกทางเลือกเพื่อคุ้มครองป้องกันอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า ห้ามเป็นเจ้าของ ห้ามผลิต ส่งออก นำเข้า และจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า อย่างเช่น อาร์เจนตินา จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า  บราซิล บรูไน กัมพูชา โคลอมเบีย อียิปต์ แกมเบีย อินเดีย อิหร่าน คูเวต ลาว เลบานอน มอริเชียส เม็กซิโก เนปาล นิคารากัว โอมาน ปานามา กาตาร์ ซีเชลล์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ซูรินาม ซีเรีย ไทย ติมอร์เอสเต ตุรกี เติร์กเมนิสถาน ยูกันดา อุรุกวัย

การบังคับการในฐานะที่ได้ผลสำเร็จิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ปิดกั้นขั้นตอนการทางกฎข้อปฏิบัติหมายทุกลู่ทาง นอกจากเพื่อที่จะการรักษา จำกัดวิธีใช้เจาะจงผู้ป่วยที่มีหนังสือรับรองแพทย์ บังคับใช้กฎระเบียบทางการแพทย์ อาทิเช่น ออสเตรีย เบลเยียม แคนาดา ชิลี เดนมาร์ค เอสโตเนีย ฟินแลนด์ คนต่างประเทศเศส ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ จาไมกา ญี่ปุ่น นอร์เวย์ ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ สวีเดน ไทย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เวเนซูเอลา

ห้ามองค์ประกอบบางจำพวก คุ้มครองป้องกันความเสี่ยงสูงสุดของบุหรี่ไฟฟ้า อาทิเช่น การเสพติดและการใช้ของเยาวชน ห้ามใช้สารเหลวนิโคติน จำกัดจำนวนนิโคติน ห้ามแต่งกลิ่นและรสเพื่อดึงดูดเยาวชน อาทิเช่น ออสเตรีย ออสเตรเลีย เบลเยียม แคนาดา โครเอเชีย ไซปรัส สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ คนต่างประเทศเศส เยอรมนี กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิสราเอล อิตาลี จาไมกา ญี่ปุ่น แลตเวีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา มอลโดวา เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกส โรมาเนีย ซาอุดีอาระเบีย สโลวาเกีย สโลเวเนีย สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร

การกำกับการในสถานะที่เป็นสารพิษ เป็นการคุ้มครองป้องกันสารที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายจากวิธีใช้งาน ห้ามบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคติน จำกัดวิธีใช้สารเหลวนิโคติน บังคับให้มีคำเตือน ตัวอย่างเช่น ออสเตรเลีย เบลเยียม มาเลเซีย บรูไน
การสั่งงานในสถานะที่เป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบ มองว่าบุหรี่ไฟฟ้าเหมือนกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว ห้ามขายให้เยาวชน ห้ามทำกิจกรรม

ทางการตลาดและผลักดันแนวทางการขาย จำกัดแนวทางการขายและใช้งานในบางพื้นที่ ต้องมีคำเตือน เช่น อาร์เจนตินา ออสเตรีย อาเซอร์ไบจาน บาห์เรน บราซิล บรูไน บัลแกเรีย โคลอมเบีย คอสตาริกา จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โครเอเชีย เอกวาดอร์ เอสโตเนีย ฟินแลนด์ จอร์เจีย ฟินแลนด์ เยอรมนี กรีซ ฮอนดูรัส อินโดนีเซีย อิหร่าน อิตาลี แลตเวีย ลิทัวเนีย มัลดีฟส์ มอลตามอริเชียว เม็กซิโก มอลโดวา เนปาล เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นิคารากัว นอร์เวย์ ปาเลา ปานามา ปารากวัย โปแลนด์ โรมาเนีย เซเนกัล ซีเชลล์ สิงคโปร์ สโลวาเกีย สโลเวเนีย สเปน สวีเดน ทาจิกิสถาน ไทย โตโก ตุรกี เติร์กเมนิสถาน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เวเนซูเอลา

 

julianmarment