end of the road movie เบรนด้าเป็นหญิงม่ายหมาดๆที่จะต้องต่อสู้เพื่อปกป้องรักษาครอบครัวสำหรับในการเดินทางสุดทรหด เมื่อการฆาตกรรมรวมทั้งกระเป๋าเงินที่หายไปนำภัยรุนแรงมาให้ อย่ามาดูถูกกับ..แม่! ถึงเวลามาพบกับหนังทริลเลอร์ตื่นเต้นตามถนนสายโลกันต์ของครอบครัวที่กำลังเปลี่ยนเป็นเป้าหมายเสี่ยงตาย นี่เป็น “End of the Road สุดปลายหนทาง” หนังอาชญากรรมสุดบีบบีบบังคับในเรื่องราวรีบด่วน แม้ว่าจะเป็นหนังที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จซ้ำๆซากๆ แม้ว่าหนังก็ใส่เกียร์ไม่ยั้งและพุ่งออกตัวแรง ทำให้ผู้ชมลุ้นระทึกจิกเบาะได้อย่างเซอร์ไพรส์พอใช้
ด้วยเหตุนั้นในรูปภาพรวมแล้ว Target ทาร์เก็ต เป้าเฉือน ถือได้ว่าเป็นหนังตื่นเต้นซึ่งสามารถสะท้อนปัญหาสังคมปัจจุบันนี้ เป็นการเปิดเผยภาพเหตุการณ์ที่อาจจะมีการเกิดขึ้นอยู่กับผู้ใดก็ได้ในโลกที่เรื่องจริง หนังถ่ายทอดออกมาได้สุดทางรวมทั้งถึงแก่นอารมณ์ ลุ้นบันเทิงใจเจริญโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงท้ายๆของเรื่อง ก็เลยเป็นหนังที่มองได้ง่าย ออกอรรถรสกับด้านมืดของแวดวงเอฟของออนไลน์ ที่จะต้องระมัดระวัง วันหนึ่ง!
ฟลานาแกนเล่าที่สลับซับซ้อนนักแสดงมากไม่น้อยเลยทีเดียวอยู่ในหลายช่วงได้น่าดึงดูดมากมายๆเบาๆเผยความลับที่เกี่ยวข้องกับสตรีคนหนึ่งในความจำของเขารวมทั้งน้องสาวที่เป็นปัญหาเชื้อเชิญสงสัย โดยมีจังหวะหลอกให้ตกอกตกใจต่อหน้า สลับกับแบบเชิญหลอนเย็นเยือกให้มองเห็นลางๆข้างหลังแทรกออกมาเป็นระยะหากแม้ก็ยังเป็นโครงเรื่องที่เล่าได้สนุกและก็เพลินใจก้าวหน้าตลอดระยะเวลาชั่วโมงเศษๆของหนังเรื่องนี้ เป็นความคลีเช่ที่ยังเอ็นจอยอยู่ได้
มีข้อแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังมองอยู่ว่าควรจะไปอ่านเรื่องสั้นข้างหลังมองจบในแต่ละตอน จะมองเห็นความพิเศษของซีรีส์นี้สำหรับการเขียนเรื่องเล่านับถืออาจารย์ขึ้นใหม่ก้าวหน้าทีเดียว end of the road movie โดยยิ่งไปกว่านั้นการแปลง ‘The Masque of the Red Death’ ที่เกิดเรื่องเล่าพระราชโอรสยุคกลางผู้เหลวไหลปิดตายวังจัดงานเลี้ยงคุ้มครองป้องกันโรคระบาดสีแดงแปลกจากโลกด้านนอก แล้วก็ ‘Murder in the Rue Morgue’ ที่ว่าด้วยคดีการฆ่าสุดสยดสยองที่เปี่ยมไปด้วยปัญหา ให้เข้ายุคตอนนี้ได้อย่างน่าดึงดูด
ที่เด็ดสุดเป็นในซีรีสืนี้จะมีตัวละครชื่อ รูฟัส กริสวอลด์ เป็นตัวร้ายอยู่ในเรื่องด้วย นายกริสวอลด์ไม่ใช่ผู้แสดงในเรื่องสั้นของโพ แต่ว่าเขาเป็นศัตรูทางงานประพันธ์ทั้งชีวิตของโพถึงขั้นเขียนอัตชีวประวัติเพื่อร้ายโพเมื่อเสียชีวิตไปและจากนั้นก็ตาม ฟลานาแกนนำกริสวอลด์มาอยู่ในงานนี้ได้อย่างเหมาะสมถูกทางมากมายๆทั้งโปรดักชั่นและจากนั้นก็องค์ประกอบงานสร้างต่างๆก็มองดูสเกลไม่ใหญ่นัก บทหนังก็เกือบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ เล่าราวไปเรื่อยๆแม้ว่าจะซ้ำจากจำเจ
เรื่องราว end of the road movie
เกิดเหตุราวการเดินทางย้ายบ้านแบบผ่านประเทศที่กลายเป็นทางสายแดนนรกของ เบรนด้า กับลูกๆทั้งยัง 2 คน กับ เรจจี๋ น้องชายของเบรนด้า วันหลังไปพบแลเห็นเหตุการฆ่าสุดร้าย ครอบครัวนี้ก็เลยเปลี่ยนเป็นจุดมุ่งหมายของผู้ร้ายลึกลับ ขณะอยู่กันเพียงคนเดียวท่ามกลางทะเลทรายในนิวเม็กซิโกและถูกตัดขาดความช่วยเหลือเกื้อกูล เบรนด้าจึงควรหันมาเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายสู้เพื่อปกป้องครอบครัวของคุณ
นี่เป็นงานของผู้กำกับหญิง “ไม่ลลิเซ็นต์ เชลตัน” ที่ถือได้ว่าเป็นผู้กำกับที่ชำนาญในวงการทีวีซีรีส์มานานเป็นทศวรรษ โอกาสนี้ถือเป็นการหวนกลับมาทำหนังเรื่องยาวอีกครั้งในรอบกว่า 20 ปีของคุณ โดยควบคุมจากบทหนังของ “คริสโตเฟอร์ เจ. มัวร์” ที่ได้ “เดวิด ลูเฮย์” ที่เคยมีประสบการณ์เขียนหนังทริลเลอร์คนผิวสีมาจำนวนมาก อย่าง Lakeview Terrace หรือ Obbsessed มาช่วยบ่มนิสัยบทหนังให้ แน่นอนว่า End of the Road เป็นหนังทริลเลอร์โร้ดทริปที่มีสเกลสร้างออกมาเพื่อเสิร์ฟจอเล็กโดยเฉพาะ
หนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้ End of the Road มองดูได้บันเทิงใจขึ้นก็คือกรุ๊ปแคสติ้งดาราหนังของหนัง ที่บอกได้ว่า “ควีน ลาติเตียนฟาห์” เป็นนางแบกที่ประคองหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าจะเป็นหน้าที่ที่ไม่ได้แปลกใหม่สำหรับคุณ แม้กระนั้นการแสดงที่เป็นธรรมชาติในบทเชยแสนเชยของคุณก็ถือว่าการแสดงของคุณช่วยส่งเสริมตัวหนังประเด็นนี้ได้ค่อนจะดี และเมื่อได้ “ลูดาคริส” มาช่วยสมทบ ในติดอยู่แรกเตอร์ที่ค่อนจะน่าเบื่อสักนิดสักหน่อย
โดยสรุปแล้ว End of the Road บางครั้งก็อาจจะมองได้ว่าเปรียบเสมือนนั่งดูหนังทริลเลอร์เชยๆเมื่อตอนยุคปี 2000s องค์ประกอบของบทหนังค่อนจะจำเจไปหมด มีตัวละครที่น่าอารมณ์บูด มีจังหวะลุ้นที่เดิมๆแม้ว่าเมื่อเอามาประกอบรวมๆเข้าด้วยกันแล้ว หนังก็ยังเพลินตามไปได้อย่างน่าฉงนใจ จำเป็นที่จะต้องขอบคุณกรุ๊ปศิลปินที่่ช่วยแบกหนังหัวข้อนี้ออกมาได้น่าสนใจมากขึ้น แม้ว่ามันแทบจะไม่มีอะไรใหม่เลยก็ตาม แม้ว่าก็ยังดีที่มันลุ้นระทึกและก็สนุกสนานตามไปได้อยู่
ซีรีส์นี้เป็นงานชิ้นท้ายที่สุดที่ฟลานาแกนได้ลงนามกับเน็ตฟลิกซ์ end of the road movie ก่อนที่จะไปส่งผลงานกับทางพงม์วิดีโอแทน มองเห็นได้ว่ามันเป็นงานบอกลาเน็ตฟลิกซ์แบบไม่มีอะไรให้เสียดายอีก อีกทั้งดึงผู้กำกับภาพคู่บารมีอย่าง ไมเคิล ฟิมอกผู้หญิง (Michael Fimognari) มากำกับซีรีส์คนละครึ่ง นำศิลปินคู่บารมีที่เล่นให้มาหลายเรื่องอย่าง คาร์ลา ข้าจิโน (Carla Gugino)แม้กระนั้นทั้งคู่ก็ผนึกกำลังช่วยเหลือเจือจานกันประคับประคองหนังประเด็นนี้ไปตลอดรอดฝั่งอยู่
มารับบทสาวปัญหาที่เอาผู้ชมอยู่มือเมื่อแสดงตัว โดยยังได้นิสิตเก่าจากอีกทั้งหนังและก็ซีรีส์ของฟลานาแกนกลับมาร่วมงานแน่น รวมทั้งได้ศิลปินที่ส่งผลงานแสดงมาโชกโชนอย่าง บรูซ กรีนวูด (Bruce Greenwood) มาหามทั้งยังเรื่องด้วยบทร็อดเดอริก และก็เซอร์ไพรส์ผู้ชมด้วยการนำ มาร์ก ฮามิลล์ (Mark Hamill) มารับบททนายสุดโหดเหี้ยมในผลงานของฟลานาแกนเป็นครั้งแรกได้อย่างน่าจำตัวหนึ่งเดินเรื่องแบบให้ฟีลเหมือนกับหนังแนวคนเดินดินดีเดือด เมื่อต้องไปพบพบกับเรื่องอันตราย
รีวิว
ถือได้ว่าเป็นหนังแอ็กชั่นทริลเลอร์เบาๆที่พอควรเอาสนุกสนานได้เล็กๆแม้กระนั้นก็แอบเสียดายที่เรื่องน่าจะทำให้ใหญ่มหึมาหรือเดือดกว่านี้ได้มากจากพล็อตที่ปูไว้ช่วงต้น แม้กระนั้นก็ทำไม่ได้ไพเราะเพราะพริ้งทุนสร้างจำกัด ก็เลยกลายเป็นหนังเกรดบีฟอร์มเล็กปกติของ Netflix เท่านั้นเองขอรับ หนังแนวแอ็กชั่นทริลเลอร์เบาๆเรื่องราวของครอบครัวผิวดำที่เดินทางย้ายบ้านระยะไกลด้านหลังผู้นำครอบครัวจากไป แม้ว่าแล้วระหว่างทางพวกเขากลับเจอเรื่องสุดอันตรายที่เกิดจากการคิดคดหักหลังชิงเงินของกรุ๊ปค้ายาสุดเหี้ยมโหดอำมหิต
ตัวหนังเหมือนแบ่งเรื่องเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นการเดินทางที่เบาๆให้ท่านเจออันตรายจากคนขาวระหว่างทางนิดๆเพียงพอทำให้เรารู้จักนิสัยใจคอของเบรนด้าว่าไม่ใช่คนที่อุตสาหะมีเรื่องกับคนไหนกัน ดูหนังใหม่ ก่อนที่จะเข้าไปเจอกับเรื่องราวฆ่ากันของกรุ๊ป และก็น้าชายต้นเหตุดันไปถือกระเป๋าเงินก้อนโตนั้นไป ทำให้กรุ๊ปต้องจับตัวลูกชายคุณไปเปลี่ยนกับการเอากระเป๋ามาคืน ซึ่งเวลานี้เองที่เรื่องก็อุตสาหะทำให้เกิดปัญหาไม่คาดคิดเกิดขึ้น
เมื่อกระเป๋าเงินไปตกในมือบุคคลอื่น เบรนด้าก็ต้องตามล่าเอากระเป๋าคืนมาให้ทันตามกำหนด ซึ่งตัวเรื่องช่วงนี้ทำเป็นค่อนจะระทึก สนุกกับเรื่องราวบังคับสุดๆโดยที่มีสายจากคนที่เรียกตัวเองว่ามิสเตอร์ครอส เป็นหัวหน้าทีมที่ใครๆก็จำเป็นจะต้องกลัวมาคือปัญหาให้คิดอีกว่าเบรนด้าจะเอาชีวิตรอดจากหมอนี่ได้อย่างไร ซึ่งดูเรื่องจะเบาๆเกินเลยไปถึงกับขนาดรบกับกรุ๊ปค้ายาเลยไหมแล้วต้องเพียรเอาชีวิตรอดจากเรื่องราวนั้นให้ได้ โดยเปิดตัวให้ เบรนด้า แม่ของครอบครัวมีสกิลการใช้ปืนและจากนั้นก็เอาชีวิตรอดจากปู่ที่เป็นทหารในอดีตสมัย
แม้กระนั้นแล้วตัวเรื่องกลับหักมุมแบบสุดๆแบบที่บางครั้งอาจจะคาดไม่ถึง แม้กระนั้นก็ไม่ใช่ไปในทำนองดีนัก กลายเป็นว่าเรื่องที่ดูเหมือนจะเดือดใหญ่มโหฬารแปลงเป็นสเกลเรื่องกล้วยๆๆแปลงมาเป็นแนวหนังไล่ล่าฆ่าคน ถึงแม้ว่าบทกลับเต็มไปด้วยเรื่องโง่ๆแบบเดิมๆอย่างตีตัวร้ายฟุบแล้วกลับหนีไปเฉยๆหรือสบโอกาสกลับไม่ทำอะไรเลย ไม่โทรแจ้งตำรวจ เพื่อเปิดให้เรื่องพาไปในแนวไล่ล่าฆ่าคนกันเท่านั้น บางครั้งอาจจะดูมันๆอยู่บ้าง แม้กระนั้นก็ไม่ค่อยสมเหตุผลเยอะมากมายสักเท่าไหร่นัก ก่อนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งตามสูตรเป๊ะๆ
ตัวศิลปินเล่นก้าวหน้า เบรนด้า ที่เล่นโดย Queen Latifah มองดูเป็นคุณแม่ที่เก็บอารมร์โกรธทุกสิ่งทุกอย่างไว้ภายในเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับลูกเป็นขั้นแรก ก่อนจะระเบิดออกมา และบทก็ยังให้ท่านเป็นคนดีจนกระทั่งถึงที่สุดด้วยการพยายามคืนเงินแล้วลายครั้ง ถึงแม้เรื่องกลับยังไม่จบตามมาหลอนเรื่อยๆซึ่ก็ดูดีเกินจริงไปนิด แต่ว่าก็พอเข้าใจเหตุผลได้ ส่วน Ludacris นักแสดงขายขำจากญาติพี่น้องฟาสก็ยังมีบทแบบเดิมมาขายขำในหัวข้อนี้ต่อ
ถึงแม้ก็มีความเป็นดราม่าที่แม้ว่าจะไม่ได้เรื่อง end of the road movie แม้กระนั้นก็ยังบากบั่นช่วยครอบครัวตามสไตล์ของเขา ซึ่งก็เล่นได้กวนๆขำๆเนียนๆไปกับเรื่องได้ ถือว่าเป็นหนังแอ็กชั่นทริลเลอร์เบาๆที่พอเหมาะพอควรเอาบันเทิงใจได้เล็กๆแต่ก็แอบเสียดายที่เรื่องคงทำให้ใหญ่มหึมาหรือเดือดกว่านี้ได้มากจากพล็อตที่ปูไว้ช่วงแรกแต่ก็ทำไม่ได้เพราะทุนสร้างจำกัด ก็เลยแปลงเป็นหนังเกรดบีฟอร์มเล็กธรรมดาของ Netflix เท่านั้นขอรับ
รีวิวหนัง “Totally Killer ย้อนเวลาหาคนร้าย” ยำรวมจานใหม่กับเหม็นคาวเลือดที่คร่ำครวญหา
จะกำเนิดอะไรขึ้น..ถ้าหากพวกเราสามารถย้อนเวลากลับมาค้นหาตัวฆาตกรโรคจิตในสมัยก่อนได้ เพื่อยั้งเรื่องเศร้าที่จะเกิดขึ้น มันเปลี่ยนมาเป็นพล็อตภาพยนตร์ตลกสยองขวัญเรื่องปัจจุบัน อย่าง “Totally Killer ย้อนเวลาหาคนร้าย” ที่เป็นการผสมหนังคลาสสิกดังๆมานำยำรวมกันเป็นของกินจานใหม่ที่ได้รสในอีกแนวทางแม้กระนั้นยังรู้จักถึงแม้ว่าเป็นเพียงแต่เรื่องเล่าระหว่างเดินทางในรถยนต์ ก่อนจะคุณจำเป็นจะต้องงัดเอาสกิลบู๊ในอดีตกลับมาใช้เพื่อช่วยลูกๆของคุณ
เล่าราวปัญหาที่ยังอยากได้การคลี่คลาย เมื่อฆาตกรโรคจิตอันโด่งดัง อย่าง Sweet Sixteen ที่ก่อเหตุฆ่าเด็กหญิงวัย 16 ในคืนวันฮาโลวีน ด้วยผู้กระทำระหน่ำแทง 16 แผล ได้กลับมาเผยตัวแล้วก็ก่อเหตุอีกทีในอีก 35 ปีถัดมา แล้วก็เหยื่อรายปัจจุบันของนั่นก็คือคนใกล้ตัวของ เจมี ทำให้คุณได้บังเอิญย้อนเวลากลับไปในปี 1987 ซึ่งเป็นตอนๆเวลาก่อนที่จะเรื่องโศกเศร้ากลุ่มนี้จะเริ่มขึ้น ก็แน่ๆว่าหนังประเด็นนี้ก็ราวกับเป็นส่วนประกอบของหนังคลาสสิกดังๆอย่าง Back to the Future กับ Scream ซึ่งก็ตามอย่างงั้นล่ะ
ยอดเยี่ยมในโปรเจกต์ของ Blumhouse สตูดิโอผู้ชำนาณการสร้างคอนเทนท์เขย่าขวัญในยุคนี้ โดยหนังก็มีกลิ่นความเป็นหนัง Slasher ปกติ แต่ว่าดัดแปลงแก้ไขและก็หยอดกล่าวหาคอมเมดี้เข้าไป เพิ่มเสน่ห์ด้วยกิมไม่กความ Nostalgia ที่กำลังนิยมสำหรับการแทรกสอดเข้าไปในคอนเทนท์ของยุคนี้เนื่องจากว่าหนังเองก็อ้างอิงไอเดียเกี่ยวกับกลิ่นของความอมตะของพวกนั้นไว้ภายในตัวหนังด้วย โดยสำเร็จหน้าที่ดูแลของ “ที่นาห์นัทชกา คาน” โปรดิวเซอร์การ์ตูนซีรีส์มีชื่อ อย่าง American Dad!
รายละเอียดของหนังบางครั้งอาจจะมิได้มีอะไรใหม่ ก็เดิมตามหมากสูตรสำเร็จที่รู้จักดีของหนังแนวไล่ฆ่ารวมทั้งการฆ่า และก็การสืบเสาะหาว่าผู้ใดเป็นคนร้ายตัวจริง ถือว่านี่ไม่ใช่พล็อตที่หอมอะไรเยอะแค่ไหนนัก เพียงแต่ว่ามันก็มีเสน่ห์ในตัวของมันเองอย่างเดียวกัน รวมทั้งเป็นอะไรที่คงจะคลิกกับผู้ชมได้ยากสักเท่าไหร่ ที่กลับมาจับจับงานสร้างภาพยนตร์ใหญ่อีกทีหนึ่ง สำหรับผู้ติดอกติดใจโพนี่เป็นงานชิ้นเคารพที่บางทีอาจยอดเยี่ยมในรอบยาวนานหลายปีนี้ที่นำแรงบัลดาลใจมาจากงานนิพนธ์ของโพ
ส่วนในฐานะแฟนๆของไมก์ ฟลานาแกน ก็มีความคิดว่าเขาเก่งขึ้นไปอีกแล้ว end of the road movie แม้ว่าจะยังจบได้ไม่ลงตัวสมใจนัก แถมจุดหักมุมว่าหญิงสาวในเรื่องเล่าเป็นใครกันแน่ก็มิได้เกินคาดหมายนักบางทีอาจทายใจได้ตั้งแต่กลางทางเสียด้วย แม้กระนั้นฟลานาแกนก็ยังมีจุดอื่นให้พวกเราลุ้นชดเชยส่วนนี้จนกระทั่งพวกเราข่มใจคอยฉากถัดไปไม่ไหวทั้งยังเคราะห์กรรมของอัยการมองปอง และก็กำเนิดอะไรขึ้นอยู่กับแมเดอลีนกันแน่ บทของเธอค่อนข้างสนุกเป็นสูตรสำเร็จอยู่แล้ว เพราะมีโอกาสได้รับมือจากทั้ง 2 ช่วงไทม์ไลน์ของหนังได้อย่างเอ็นจอย
โดย Totally Killer อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีภาพที่คล้ายกับหนังไล่ฆ่ากับนักแสดงวัยรุ่นทั่วๆไป การผลิตบรรยากาศต่างๆก็ชักชวนให้ระลึกถึงหนังดังแนวนี้เรื่องอื่นๆที่เป็นการถือเอามาประสมประสานกันขึ้นใหม่ ส่วนประกอบงานสร้างก็นับว่ามิได้มีอะไรหวือหวานัก การเก็บเนื้อหาในตอนสมัยต่างๆมิได้ลงลึกมากมายขนาดนั้น แต่ว่าก็จัดว่า นักแสดงสาว “เคียร์แนน ชิพกา” จากซีรีส์ Chilling Adventures of Sabrina ซาบริน่า สาวน้อยต้องสาป โดนขึ้นมาแบกรับหนังเรื่องนี้ด้วยร่างเล็ก ๆ ของเธอ ก็ถือว่าเธอเอาอยู่เลยทีเดียว
